tag:blogger.com,1999:blog-76385874124759591842024-03-08T15:23:35.171-08:00การขยายพันธ์ุพืชโดยการตอนกิ่งputtiponghttp://www.blogger.com/profile/16693831867788803745noreply@blogger.comBlogger1125tag:blogger.com,1999:blog-7638587412475959184.post-47334846277456818792011-05-11T07:37:00.000-07:002011-05-11T10:37:30.167-07:00การขยายพันธุ์พืชโดยการตอนกิ่ง<div style="color: #0c343d;"><span style="font-size: large;"><b>การขยายพันธุ์พืชคืออะไร</b></span></div><br />
<div style="color: #274e13;"> <span style="font-size: small;"> </span><span style="font-size: small;">กระบวนการที่ทำให้เกิดการเพิ่มปริมาณต้นพืชให้มากขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อดำรงสายพันธุ์พืชชนิดต่าง ๆ ไว้มิให้สูญพันธุ์ เพื่อเป็นการเพิ่มปริมาณผลผลิต และเป็นการค้า</span></div><div style="color: #274e13;"><span style="font-size: small;"><br />
</span></div><div style="color: #274e13;"><span style="font-size: small;"> ในอดีตการขยายพันธุ์พืชสวนใหญ่มักจะใช้วิธีการเพาะเมล็ดเป็นหลัก ซึ่งทำให้ต้นพืชที่เกิดขึ้นใหม่มีลักษณะผันแปรไม่ค่อยเหมือนกับต้นแม่ แต่ก็มีพืชบางชนิดที่ใช้วิธีการขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ดแล้วไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางสายพันธุ์ เช่น มังคุด นอกจากจะพบการเปลี่ยนแปลงทางสายพันธุ์ที่เกิดขึ้นกับต้นพืชที่ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ดแล้ว ยังพบว่าต้นพืชที่ได้จากการขยายพันธุ์โดยวิธีเพาะเมล็ดจะให้ผลช้าและมีลักษณะสูงใหญ่ ทำให้เกิดการยุ่งยากในการเก็บเกี่ยวและปฏิบัติดูแลรักษา</span></div><div style="color: #274e13;"><span style="font-size: small;"><br />
</span></div><div style="color: #274e13;"><span style="font-size: small;"> ปัจจุบันเทคโนโลยีและวิทยาการใหม่ ๆ ในการปลูกพืชได้มีการพัฒนาและก้าวหน้าไปมากจึงได้เปลี่ยนวิธีขยายพันธุ์พืชโดยการเพาะเมล็ดมาใช้วิธีการขยายพันธุ์แบบไม่ใช้เพศแทน ได้แก่ การตอน การติดตา การต่อกิ่ง การทาบกิ่ง การชำ ฯลฯ ส่วนการขยายพันธุ์พืชแบบวิธีเพาะเมล็ดก็ยังคงใช้อยู่แต่ใช้เฉพาะบางวัตถุประสงค์เท่านั้น เช่น การเพาะเมล็ดเพื่อให้ได้ต้นพืชใหม่นำมาใช้เป็นต้นตอในการขยายพันธุ์ แบบติดตา ทาบกิ่ง ต่อกิ่ง รวมทั้งเพื่อขยายพันธุ์พืชบางชนิดที่ไม่สามารถใช้วิธีการขยายพันธุ์ไม่ใช่เพศได้หรือใช้ได้ผลไม่ดีเท่าที่ควร เช่น มะพร้าว หมาก มังคุด อย่างไรก็ตามในการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในต้นพืชที่ได้จากการเพาะเมล็ด ในบางครั้งอาจจะพบลักษณะที่ดีกว่าแม่พันธุ์เดิมซึ่งเป็นวิธีที่นำมาใช้ในการปรับปรุงพันธุ์พืชเพื่อให้ได้สายพันธุ์ใหม่ ๆ อีกด้วย</span></div><div style="color: #274e13;"><span style="font-size: small;"><br />
</span></div><b><br />
</b><br />
<div style="color: #0c343d;"><span style="font-size: large;"><b>การขยายพันธุ์พืชมี 6 แบบ</b></span></div><br />
<div class="MsoNormal" style="line-height: normal;"><div style="color: #0c343d;"><span style="font-size: small;"><b>- </b><u>การตอนกิ่ง </u></span></div><div style="color: #134f5c;"><span style="font-size: small;"><br />
</span></div><div style="color: #134f5c;"><span style="font-size: small;"> <span style="color: #274e13;">คือ วิธีการทำให้กิ่งพืชออกรากในขณะอยู่ติดกับต้นแม่ เมื่อกิ่งตอนนั้นออกรากดีแล้ว จึงตัดไปปลูกต่อไป การ ตอนกิ่งเป็นการตัดท่อลำเลียงอาหารของพืชส่วนท่อน้ำยังมีอยู่ตามปกติ จึงทำให้กิ่งที่ทำการตอนได้รับน้ำอยู่ตลอดเวลา ด้วยเหตุนี้จึงทำให้กิ่งตอนสดอยู่เสมอจนกว่าจะออกราก การ ออกรากของ กิ่งตอน จะขึ้นอยู่กับความชื้น การถ่ายเทอากาศ และระดับอุณหภูมิที่เหมาะสม แต่ถ้าปล่อยให้ดินหรือวัสดุหุ้มกิ่งแห้งโดยมิได้ดูแล ย่อมจะเป็นอุปสรรคต่อการเกิดรากได้เช่นกัน ดังนั้น ฤดูกาลที่เหมาะสมที่สุดในการตอนกิ่ง ควรเป็นฤดูฝน</span></span></div><div style="color: #274e13;"><span style="font-size: small;"> การตอนกิ่ง ใช้แก้ปัญหา โดยเฉพาะพืชบางชนิดที่ไม่สามารถออกรากได้โดยใช้วิธีตัดชำ แต่ออกรากได้โดยวิธีตอนกิ่ง สามารถทำได้ง่ายทั้งกลางแจ้งและในเรือนเพาะชำ นอกจากนี้ กิ่งตอนยังมีจำนวนรากมากกว่ากิ่งตัดชำ เมื่อนำไปปลูก จึงมีโอกาสตั้งตัวได้เร็วและมีเปอร์เซ็นต์การตายน้อยกว่ากิ่งตัดชำ ประการสำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ พืชต้นใหม่ที่ได้จากการตอน จะมีลักษณะเป็นไม้พุ่มเตี้ย จึงสะดวกต่อการดูแลปฏิบัติบำรุงรักษาและเก็บเกี่ยว โดยเฉพาะไม้ประดับ จะได้ทรงพุ่มที่สวยงาม เป็นต้น แต่กิ่งตอนมีข้อเสีย คือ พืชที่นำไปปลูกเมื่อโตเต็มที่จะล้มง่าย เพราะไม่มีรากแก้ว</span></div><span style="font-size: small;"><br />
</span><br />
<span style="font-size: small;"><b>- </b><u>การทาบกิ่ง </u></span><br />
<span style="font-size: small;"><br />
</span><br />
<span style="font-size: small;"> <span style="color: #274e13;"> คือ การ นำต้นพืชสองต้น ซึ่งมีลักษณะรากและส่วนยอดมาเชื่อมติดให้เป็นต้นเดียวกัน โดยมีเซลล์เนื้อเยื่อเป็นตัวเชื่อม การทาบกิ่งสามารถทำได้ทุกฤดูกาล การได้ผลดีหรือไม่ขึ้นอยู่กับระยะการเจริญเติบโต และชนิดของพืชที่อยู่ในตระกูลเดียวกัน</span></span><br />
<span style="font-size: small;"><br />
</span><br />
<span style="font-size: small;"><b>- </b><u>การติดตา</u></span><br />
<span style="font-size: small;"><br />
</span><br />
<span style="font-size: small;"> <span style="color: #274e13;">คือ การ ติดตา เป็นวิธีการขยายพันธุ์พืชที่นำเอาส่วนตาหรือกิ่งของพืชต้นหนึ่ง ซึ่งเป็นพืชพันธุ์ดีหรือ กิ่งพันธุ์ดี ไปติดเข้ากับพืชอีกต้นหนึ่ง เพื่อให้ตาของพืชเจริญเติบโตเป็นพืชต้นใหม่ต่อไป ส่วน ต้นตอ ซึ่งทำหน้าที่เป็นระบบราก นั้น เป็นต้นพืชที่มีความแข็งแรง หาอาหารเก่ง เจริญเติบโตเร็ว ทนต่อสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมได้ดี พืชที่นิยมขยายพันธุ์ด้วยการติดตา มีทั้งไม้ดอก ไม้ประดับและไม้ผล การ ติดตา เป็นวิธีการขยายพันธุ์พืชอีกวิธีหนึ่งที่มีความสำคัญทางด้านการช่วยเปลี่ยน ยอดต้นพืชที่มีลักษณะไม่ดี ให้เป็นพันธุ์ดีได้ ทำ ให้พันธุ์พืชมีความแข็งแรง ต้านทานศัตรูและความแห้งแล้งได้ดี เพราะมีต้นตอที่แข็งแรง สามารถขยายพันธุ์ได้จำนวนมาก เพราะกิ่งพันธุ์แต่ละกิ่งจะมีหลายตา นอกจากนี้ ยังช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับพันธุ์ไม้ด้วย โดยเฉพาะการผลิตพืชแฟนซี ซึ่งเป็นพืชที่ให้ผลผลิตหลายอย่างในต้นเดียวกัน เช่น มะม่วงอกร่องมะม่วงเขียวเสวย มะม่วงน้ำดอกไม้ ในต้นเดียวกัน หรือไม้ดอก เช่น กุหลาบ จะมีดอกหลายสีในต้นเดียวกัน ฯลฯ ทั้งนี้ การติดตา สามารถ ทำได้สะดวก รวดเร็ว โดยสามารถนำตาจากกิ่งพันธุ์ดี จากแหล่งหนึ่งไปทำการติดตาอีกแหล่งหนึ่งได้ แต่อาจต้องใช้เวลาในการบังคับและเลี้ยงตาใหม่ให้เป็นต้นพืช ยาวนานกว่าการต่อกิ่ง ดังนั้นผู้ที่ทำการขยายพันธุ์พืชด้วยวิธีการติดตา ได้ดี ต้องมีความชำนาญและประณีตในการขยายพันธุ์</span></span><br />
<span style="font-size: small;"><br />
</span><br />
<div style="color: #0c343d;"><span style="font-size: small;"><b>- </b><u>การเสียบยอด</u></span></div><span style="font-size: small;"><br />
</span><br />
<span style="font-size: small;"> <span style="color: #274e13;"> คือ การเชื่อมประสานเนื้อเยื่อของต้นพืช 2 ต้นเข้าด้วยกัน เพื่อให้เจริญเติบโตเป็นต้นเดียวกัน</span></span><br />
<span style="font-size: small;"><br />
</span><br />
<div style="color: #0c343d;"><span style="font-size: small;"><b>- </b><u>การตัดชำ</u></span></div><span style="font-size: small;"><br />
</span><br />
<span style="font-size: small;"> <span style="color: #274e13;">คือ การ ตัดชำเป็นวิธีการขยายพันธุ์แบบไม่ใช้เพศที่นำส่วนต่างๆ ของพืช ได้แก่ ลำต้น ใบ ราก ที่ถูกตัดออกจากต้นแม่ที่ต้องการเพื่อเพิ่มปริมาณให้มากขึ้นนั้น มาไว้ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการชักนำให้เกิดรากหรือ ต้นใหม่สำหรับนำไปปลูกต่อไป ต้นใหม่ที่ได้จึงมีลักษณะทางพันธุกรรมเหมือนต้นเดิม เป็นวิธีที่สามารถทำได้ง่าย รวดเร็ว และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมากนัก ต้นที่ได้จากการตัดชำให้ความสม่ำเสมอ จึงนิยมทำกันมากในการผลิตเป็นการค้าของพืชสวนหลายชนิด โดยเฉพาะกับไม้ประดับต่างๆ และไม้ผล การ ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการตัดชำจากส่วนที่มีพัฒนาการไปทำหน้าที่ต่างๆของต้นแล้ว จึงเป็นวิธีการชักนำให้เซลล์ของชิ้นส่วนพืชกลับมาทำหน้าที่ในการแบ่งเซลล์ สำหรับเกิดส่วนต่างๆ ที่เป็นต้นสมบูรณ์ได้ เช่น การเกิดรากบนกิ่ง การเกิดตาบนราก การเกิดทั้งรากและต้นบนใบที่ตัดชำ การแบ่งกลุ่มของการตัดชำจึงพิจารณาได้หลายประเด็น ตัวอย่างเช่น ส่วนของพืชที่นำมาใช้ในการตัดชำ อายุของชิ้นส่วนที่นำมาตัดชำ และความอ่อนของเนื้อเยื่อ จึงทำให้พืชชนิดเดียวกันสามารถขยายพันธุ์ได้หลายวิธี ทั้งนี้นิยมใช้วิธีที่ใช้กับพืชนั้นแล้วประสพผลสำเร็จได้สูง และเป็นวิธีที่ทำได้ง่ายกับพืชนั้นๆ</span></span><br />
<span style="font-size: small;"><br />
</span><br />
<div style="color: #0c343d;"><span style="font-size: small;"><b>- </b><u>การเพราะเลี้ยงเนื้อเยือ</u></span></div><span style="font-size: small;"><br />
</span><br />
<span style="font-size: small;"> <span style="color: #274e13;"> </span><span style="color: #134f5c;"> คือ การนำเอาส่วนใดส่วนหนึ่งของพืช เช่น อวัยวะ เนื้อเยื่อ และเซลล์มาเลี้ยงในอาหารสังเคราะห์ ซึ่งประกอบด้วยแร่ธาตุ น้ำตาล ไวตามินและสารควบคลุมการเจริญเติบโต ในสภาพปลอดเชื้อจุลินทรีย์ โดยมีการควบคุมสภาพแวดล้อม เช่น อุณหภูมิ แสง และความชื้น ส่วนต่างๆของพืชเหล่านี้จะสามารถเจริญเติบโตเป็นต้นใหม่ โดยอาศัยคุณสมบัติพิเศษของเซลล์พืชที่สามรถเจริญเติบโต พัฒนาไปเป็นต้นใหม่ได้ หรือที่เรียกว่า โคลนนิ่ง</span></span><br />
<span style="font-size: small;"><br />
</span><br />
<div style="color: #0c343d;"><span style="font-size: small;"><u>ยกตัวอย่างการขยายพันธุ์พืชที่นิยมทำกันคือการตอนกิ่ง</u></span></div><span style="font-size: small;"><br />
</span><br />
<span style="font-size: small;"> <span style="color: #0c343d;"> </span><span style="color: #0c343d;"> เหตุที่ใช้การตอนกิ่ง </span></span><br />
<div style="color: #134f5c;"><span style="font-size: small;"><br />
</span></div><div style="color: #274e13;"><span style="font-size: small;"> - เมื่อพืชขยายพันธุ์ด้วยวิธีนี้ตามธรรมชาติ เช่น สตรอเบอรี่ </span></div><div style="color: #274e13;"><span style="font-size: small;"> - เมื่อใช้วิธีอื่นแล้วออกรากยาก และสายต้นมีคุณค่าคุ้มกับต้นทุนและค่าแรง</span></div><div style="color: #274e13;"><span style="font-size: small;"> ในการตอน เช่น ลำไย ลิ้นจี่ </span></div><div style="color: #274e13;"><span style="font-size: small;"> - การตอนกิ่งสามารถขยายพันธุ์ได้ต้นขนาดใหญ่ในเวลาสั้น </span></div><div style="color: #134f5c;"><span style="font-size: small;"><span style="color: #274e13;"> - ในกรณีที่ต้องการต้นพืชขนาดใหญ่จำนวนไม่มากและใช้อุปกรณ์น้อย</span> </span></div><span style="font-size: small;"><br />
</span><br />
<div style="color: #0c343d;"><span style="font-size: small;"><u>การเลือกกิ่งและฤดูที่เหมาะสมในการตอนกิ่ง</u></span></div><div style="color: #134f5c;"><span style="font-size: small;"><br />
</span></div><div style="color: #134f5c;"><span style="font-size: small;"> <span style="color: #274e13;"> - ฤดูกาล ควรตอนกิ่งในฤดูฝนตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนสิงหาคม</span></span></div><div style="color: #274e13;"><span style="font-size: small;"> - การเลือกกิ่ง ควรเลือกกิ่งเพสลาด มีสีน้ำตาลไม่แก่หรือไม่อ่อนจนเกินไป</span></div><div style="color: #274e13;"><span style="font-size: small;"> เมื่อควั่นเปลือกแล้วควรลอกเปลือกออกได้ง่าย</span></div><div style="color: #274e13;"><span style="font-size: small;"> - ชนิดกิ่ง กิ่งกระโดงเหมาะที่สุดเพราะเป็นกิ่งตั้งจะออกรากได้รอบกิ่ง ถ้าเป็นกิ่งนอน</span></div><div style="color: #274e13;"><span style="font-size: small;"> รากจะออกแต่ด้านบนแล้วห้อยลงตามแรงดึงดูดของโลกทำให้ได้รากน้อยและรากโตช้า</span></div><div style="color: #274e13;"><span style="font-size: small;"> - การควั่นและการหุ้มกิ่ง ควั่นรอบกิ่งเพื่อตัดท่ออาหารแล้วกรีดตามยาวเท่ากับ</span></div><div style="color: #274e13;"><span style="font-size: small;"> ความยาวรอบกิ่ง ลอกเปลือกออกแล้วขูดเมือกเบาๆโดยใช้สันมีดเพื่อทำลาย</span></div><div style="color: #274e13;"><span style="font-size: small;"> แคมเบียม แล้วหุ่มด้วยกาบมะพร้าวให้มิดชิดแล้วใช้เทปพลาสติกพันให้มิดชิด </span></div><span style="font-size: large;"><br />
</span><br />
<div style="color: #0c343d;"><span style="font-size: large;"><b>ขั้นตอนการตอนกิ่ง</b></span></div><div style="color: #0c343d;"> <span style="font-size: small;"> </span></div><div style="color: #0c343d;"><span style="font-size: small;"><u>การเตรียมอุปกรณ์สำหรับการตอนกิ่ง</u></span></div><span style="font-size: small;"> </span><br />
<span style="font-size: small;"> <span style="color: #134f5c;"> <span style="color: #274e13;">- มีดขยายพันธุ์หรือ คัตเตอร์ (Cutter) หรือมีดติดตาต่อกิ่ง</span></span></span><br />
<div style="color: #274e13;"><span style="font-size: small;"> - ถุงพลาสติกขนาด 2x4 นิ้ว หรือ 3x5 นิ้ว</span></div><div style="color: #274e13;"><span style="font-size: small;"> - วัสดุหุ้มกิ่งตอน เช่น กาบมะพร้าว ถ่านแกลบหรือขุยมะพร้าว</span></div><div style="color: #274e13;"><span style="font-size: small;"> - เชือกมัดวัสดุหุ้มกิ่งตอน เช่น เชือกฟาง</span></div><div style="color: #274e13;"><span style="font-size: small;"> - ฮอร์โมนเร่งราก</span></div><span style="font-size: small;"><br />
</span><br />
<div style="color: #0c343d;"><span style="font-size: large;">วีดีโอขั้นตอนการตอนกิ่ง </span></div><span style="font-size: small;"><br />
</span><br />
<br />
<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><iframe allowfullscreen='allowfullscreen' webkitallowfullscreen='webkitallowfullscreen' mozallowfullscreen='mozallowfullscreen' width='320' height='266' src='https://www.youtube.com/embed/4VMmAq9xWRs?feature=player_embedded' frameborder='0'></iframe></div><br />
<br />
<div style="color: #0c343d;"><span style="font-size: large;"><b>ประโยชน์และข้อดีข้อเสียของการตอนกิ่ง</b></span></div><div style="color: #0c343d;"><span style="font-size: small;"><br />
</span></div><div style="color: #0c343d;"><span style="font-size: small;"><u>ประโยชน์ของการตอนกิ่ง</u></span></div><span style="font-size: small;"><br />
</span><br />
<span style="font-size: small;"> <span style="color: #274e13;"> - ใช้ขยายพันธุ์พืชที่เกิดรากได้ยาก ไม่สามารถใช้วิธีการตัดชำกิ่งแก่ได้ดี เช่น ฝรั่ง</span></span><br />
<div style="color: #274e13;"><span style="font-size: small;"> - เหมาะกับพืชที่สามารถขยายพันธุ์ด้วยวิธีนี้อยู่แล้วตามธรรมชาติ เช่น สตรอเบอรี่</span></div><div style="color: #274e13;"><span style="font-size: small;"> - เป็นพืชที่คัดเลือกไว้แล้ว มีลักษณะเด่น หรือ เป็นพืชที่มีจำนวนไม่มาก สามารถ</span></div><div style="color: #274e13;"><span style="font-size: small;"> จำหน่ายได้ราคา ดี เช่น ลำไย</span></div><div style="color: #274e13;"><span style="font-size: small;"> - กิ่งพันธุ์ที่ขยายพันธุ์ได้มีขนาดต้นใหญ่ ไม่ต้องเสียเวลาดูแลมาก เช่น ยางอินเดีย</span></div><div style="color: #274e13;"><span style="font-size: small;"> - ไม่ต้องจัดเตรียมสถานที่และสภาพแวดล้อมระหว่างการออกรากมากนัก และใช้อุปกรณ์น้อย</span></div><span style="font-size: small;"><u><br />
<span style="color: #0c343d;">ข้อเสียของการตอนกิ่งคือ</span></u></span><br />
<span style="font-size: small;"><br />
</span><br />
<span style="font-size: small;"> <span style="color: #274e13;"> - พืชที่นำไปปลูกเมื่อโตเต็มที่จะล้มง่าย เพราะไม่มีรากแก้ว</span></span><br />
<br />
<br />
<div style="color: #0c343d;"><span style="font-size: large;"><b>พืชผลไม้ประดับที่นิยมนำมาตอนกิ่ง</b> </span> </div><br />
<span style="color: #274e13;"> </span><span style="color: #274e13; font-size: small;">ได้แก่ กุหลาบ เข็ม พุด มะลิ โกสน แก้ว มะนาว ส้ม ชมพู่ ฝรั่ง ลิ้นจี่ ส้มโอ</span><br />
<br />
<b><span style="color: #274e13; font-size: large;"><span style="color: #0c343d;">อ้างอิงจาก</span> </span></b><br />
<div class="MsoListParagraphCxSpLast" style="color: #274e13; line-height: normal;"><div><span style="font-size: small;"><b><span lang="TH" style="font-family: "Angsana New","serif";">http://web.ku.ac.th/nk40/nk/data/17/nk17k1.htm<br />
ออนไลน์ สืบค้นเวลา 00.30 นวันที่สืบค้น 11 พ.ค. 54 </span></b></span></div><div><span style="font-size: small;"><b><span lang="TH" style="font-family: "Angsana New","serif";">http://www.lks.ac.th/kanlayanee_fence/bio510_52/s3_6.htm<br />
ออนไลน์ สืบค้นเวลา 00.30 น วันที่สืบค้น 11 พ.ค. 54<br />
http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=467.0<br />
ออนไลน์ สืบค้นเวลา 00.30 น วันที่สืบค้น 11 พ.ค. 54</span></b></span></div><div><span style="font-size: small;"><b><span lang="TH" style="font-family: "Angsana New","serif";">http://web.agri.cmu.ac.th/hort/course/359301/pprop/5.cutting/cutting.html<br />
ออนไลน์ สืบค้นเวลา 00.30 น วันที่สืบค้น 11 พ.ค. 54</span></b></span></div><div><span style="font-size: small;"><b><span lang="TH" style="font-family: "Angsana New","serif";">http://learners.in.th/blog/science3/47485<br />
ออนไลน์ สืบค้นเวลา 00.30 น วันที่สืบค้น 11 พ.ค. 54</span></b></span></div><span style="font-size: small;"><b><span lang="TH" style="font-family: "Angsana New","serif";">http://www.puibuatip.com/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show&Category=puibuatipcom&thispage=&No=348249&WBntype=1<br />
ออนไลน์ สืบค้นเวลา 00.30 น วันที่สืบค้น 11 พ.ค. 54<br />
<br />
<o:p></o:p></span></b></span></div><div style="color: #274e13;"><span style="font-size: small;"> </span><span style="font-size: small;"><br />
</span></div><span style="color: #274e13; font-size: small;"><br />
</span><br />
<br />
<b><span style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 18pt;"><o:p></o:p></span></b></div>puttiponghttp://www.blogger.com/profile/16693831867788803745noreply@blogger.com0